Last updated: 3 พ.ย. 2563 | 962 จำนวนผู้เข้าชม |
•6 วิธีปฏิเสธ อย่างมีประสิทธิภาพ•
เคยมีคนกล่าวไว้ว่า...
ความเกรงใจคนอื่นทําให้ “คนอื่นสุขมาก – ตัวเรา สุขน้อย”
ความเกรงใจตัวเองทําให้ “ตัวเราสุขมาก – คนอื่น สุขน้อย”
.
เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การจัดสมดุลย์ นั่นคือ ต้องมีความพอดี!
.
หลายคนเป็นคนประเภท “People Pleasing” คือ ขี้เกรงใจ และรู้สึกผิดมากที่จะต้องปฏิเสธใคร ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม
กลัวว่าเค้าจะเสียใจ หรือ รู้สึกแย่กับเรา
(และแต่ก่อนครูกิ๊ฟก็เป็นคนแบบนี้เหมือนกันค่ะ)
การสำรวจทางจิตวิทยาพบว่า
การตอบรับในขณะที่จิตใจของเราอยู่ในสภาวะที่อยากปฏิเสธ
จะส่งผลให้เกิดภาวะเครียด ปวดหัว ปวดไหล่ ไปจนถึงขั้นนอนไม่หลับ
ผลที่ตามมาก็คือ เราก็จะไม่มีความสุขนั่นเอง
.
เพราะฉะนั้น ถ้าเราไม่พร้อม มันดีกว่ามากๆค่ะ ที่เราจะรู้จักการปฏิเสธบ้าง
แต่การปฏิเสธนั้น ต้องมีประสิทธิภาพและส่งผลต่อจิตใจในทางบวก ของทั้งเราและผู้ถูกปฏิเสธ
.
วันนี้ครูกิ๊ฟมี 6 วิธีการปฏิเสธ อย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำค่ะ
.
1.กล่าวขอบคุณเพื่อรักษาน้ำใจ
พร้อมบอกเหตุผลที่หนักแน่น กระชับ ชัดเจน จะได้ไม่ดูเป็นข้ออ้าง
เทคนิคนี้แสดงให้เห็นว่าถ้าเรารู้สึกดีที่ถูกเชิญชวน แต่เราไม่สามารถเลี่ยงงาน หรือ ธุระได้จริงๆ โดยให้เน้นคำว่า ขอบคุณ ให้หนักแน่นพอๆกับเหตุผลที่เราต้องปฏิเสธ
ตัวอย่างเช่น : “ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ที่นึกถึงกัน แต่ฉันต้องไปทำธุระสำคัญที่ต่างจังหวัดวันนั้นพอดีค่ะ
ยังงัยต้องขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
2.ทวนคําปฎิเสธ
เทคนิคข้อนี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเรา และสื่อว่าที่ต้องปฏิเสธเพราะมีเหตุจําเป็นจริงๆ
ตัวอย่างเช่น : “เสียดายจังเลยค่ะที่ไม่สามารถร่วมproject นี้ได้
ฟังดูแล้วน่าสนุกมาก ฉันเคยคิดเสมอว่าถ้าได้รับโอกาสทำงานแบบนี้ จะรีบคว้าเลย ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้งานรัดตัวจริงๆ”
3.ไม่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แต่แจ้งว่าอีกกี่วันจึงจะทำให้ได้ สามารถรอได้หรือไม่
เทคนิคข้อนี้แสดงให้เห็นว่าเรายินดีช่วย หรือ อยากตอบรับคำชวนเชิญ
แต่ต่อรองขอเป็นวันอื่นหรือ โอกาสอื่นที่ทั้งเราและเขาสะดวก
(เป็นการหาจุดสมดุลนั่นเอง)
ตัวอย่างเช่น : “ยินดีมากๆเลยค่ะ ที่จะทำงานนี้ แต่อยากขอเคลียร์งานที่ค้างให้เสร็จก่อน
ประมาณหลังวันที่ 10 นี้ คุณสะดวกที่จะมาคุยรายละเอียดอีกครั้งมั้ยคะ”
4.แนะนำถึงผลดีต่อเขา ถ้าเราปฏิเสธ
เทคนิคข้อนี้แสดงให้เห็นว่าเราเป็นห่วงเขา โดยการอธิบายถึงผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับ
ตัวอย่างเช่น : “ฉันว่างานนี้ ฉันขอแนะนำคนที่เชี่ยวชาญ และถนัดด้านนี้โดยตรงให้คุณจะดีกว่าค่ะ งานที่ออกมาจะได้มีประสิทธิภาพตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด”
5.ปฏิเสธด้วยจริงใจด้วยน้ำเสียงที่เห็นใจ
เทคนิคข้อนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และไม่โลเลให้เขาต้องเสียเวลา
ในเมื่อเวลาทุกคนมีค่า อย่าให้ความหวังโดยการใช้คำพูดแบ่งรับแบ่งสู้เช่น “อาจจะ ดูก่อน” เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องมีความหวัง เพราะการให้ความหวังนั้นทำให้รู้สึกแย่กว่าการปฏิเสธอย่างแน่นอน
ตัวอย่างเช่น “ขอโทษที่ไม่สามารถไปช่วยงานได้นะคะ เข้าใจความรู้สึกคุณเลย ลองสอบถามคนอื่นๆดูนะคะ ฉันเชื่อว่าต้องมีคนที่สะดวกและยินดีช่วยคุณแน่นอนค่ะ”
6.ปฏิเสธแล้วถามกลับ
หลังจากปฏิเสธแล้ว ให้ถามกลับถึงโอกาสต่อไปทันที
เทคนิคข้อนี้แสดงให้เห็นถึงถึง
ความใส่ใจและไม่ดูดายในเรื่องนั้นๆ
ตัวอย่างเช่น “project นี้ฉันไม่สะดวกที่จะร่วมงานกับคุณจริงๆ ว่าแต่ปีนี้คุณจะมีงานอีกครั้งเมื่อไหร่ หวังว่าโอกาสหน้าเราจะได้ร่วมงานกันค่ะ”
.
การกล่าวปฏิเสธ ช่วงแรกอาจอึดอัด และรู้สึกผิด
แต่พอเราเข้าใจเหตุและผล รู้จักรัก และเคารพตัวเอง รวมถึงการจัดความสมดุลให้าชีวิต การปฏิเสธ ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และสามารถฝึกฝนได้เช่นกัน
#ครูกิ๊ฟคริมา
#TheReflectionist
•••
ติดต่องาน / สนใจCourse ปรับภาพลักษณ์ และทัศนคติส่วนบุคคล หรือ องค์กร
ติดต่อ
Tel: 0815655549
•••
ติดตามเทคนิคการปรับภาพลักษณ์ ความรู้ข้อคิด ทัศนคติดีๆ และเรื่องราวสนุกๆ จากครูกิ๊ฟได้ที่
Line: @thereflectionist
IG: thereflectionist.image
FB: @TheReflectionist.Image
YouTube: Karima TheReflectionist
www.thereflectionistimage.com
13 พ.ย. 2566