Last updated: 30 ก.ค. 2564 | 647 จำนวนผู้เข้าชม |
•การใช้ “เสียง” เพื่อการสื่อสาร•
เสียง เป็นการสื่อสารที่สำคัญ
ยิ่งในยุคที่เราต้องสื่อสารผ่าน online (ไม่ว่าจะแบบเห็นหน้า หรือ ไม่เห็นหน้า) ยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องการใช้เสียงให้มาก
เพราะ เสียงสามารถสะท้อนทั้งอารมณ์และความรู้สึก
ที่สำคัญคือยังสามารถสร้างความสำเร็จได้อีกด้วย
การใช้น้ำเสียงให้เป็น จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกการสื่อสารให้มีพลัง ชวนฟัง สร้างความประทับใจ น่าจดจำ
จะช่วยดึงดูดความสนใจและความน่าเชื่อถือจากผู้ฟังได้ เรียกว่าเป็นอีกเรื่องที่สำคัญต่อการมีภาพลักษณ์ที่ดี
.
ครูกิ๊ฟขอแนะนำ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้เสียงของเราเป็นสื่อในการสร้างความประทับใจ น่าเชื่อถือ มีพลังและน่าจดจำ มาให้ทุกคนลองฝึกการใช้เสียงกันค่ะ
1.การหมั่นฝึกออกเสียง
พูดให้ชัดถ้อยชัดคำ โดยการฝึกอ่านออกเสียงประโยคต่างๆ รวมถึงฝึกพูดคำควบกล้ำให้ชัดเจน
นอกจากจะทำให้การพูดของเราน่าฟังมากขึ้นแล้ว
ถ้าเราออกเสียงผิด ความหมายอาจผิด ส่งผลทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้
2.รู้จังหวะในการพูด ไม่ช้า หรือ เร็วจนเกินไป
รวมถึงจังหวะการหยุด เว้นวรรคตอน และประโยคให้ถูกต้อง ถูกความหมายที่ต้องการจะสื่อสาร
ซึ่งการหยุด ควรหยุดก่อนที่จะพูดถึง
-บริบทที่อยากให้คนจดจำ เช่น คำพูดที่อยากสร้างอารมณ์ร่วม
-ประเด็นสำคัญ เช่น ตัวเลข
3.รู้จักใช้โทนเสียง สูง กลาง ต่ำ
เพื่อให้เรื่องราวที่พูดมีมิติ และน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ เลือกการใช้โทนเสียงให้เหมาะสมกับเรื่องราวและสอดคล้องกับความหมายของคำที่ต้องการสื่อ จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังได้มากกว่าการพูดแบบโมโนโทน
เสียงสูง (Head Tone) : ใช้เพื่อดึงดูดความสนใจ ทักทาย ตั้งคำถาม
แต่ข้อควรระวังคือ อย่าใช้เสียงสูงพูดตลอดเวลา เพราะจะทำให้เกิดความน่ารำคาญได้
เสียงกลาง (Mouth Tone) : คือเสียงที่เราใช้พูดคุยตามปกติ ใช้เพื่อ บรรยาย เล่าเรื่อง พูดถึงเนื้อหาทั่วๆไป
เสียงต่ำ (Chest Tone) : เป็นเสียงที่มีพลัง ใช้เน้นย้ำเรื่องสำคัญ ประโยคที่ต้องการให้ผู้ฟังจดจำ หรือสร้างอารมณ์ร่วม
4.สำหรับคนที่เสียงใหญ่ เมื่อจบประโยค ควรทอดหางเสียงเล็กน้อย จะดูเป็นมิตรยิ่งขึ้น
ส่วนคนที่เสียงเล็ก พยายามออกเสียงให้ฉะฉาน หลีกเลี่ยงการพูดอ้อมแอ้มที่ทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ
5.ลดใช้คำฟุ่มเฟือย (Non-Words)
เช่น เอ่อ, อ่า, เอิ่ม, แบบ, แบบว่า, ไม่, อะไรประมาณนี้, นะคะ…นะ ครับผม…ครับ,
เรามักใช้คำฟุ่มเฟือยเหล่านี้มาแทรกในเวลาที่เรากำลังคิดถึงเรื่องที่จะพูดต่อ ซึ่งคำเหล่านี้ไม่มีความหมายต่อการสื่อสารเลย
แก้ไข โดยการพูดให้ช้าลง หรือหยุดพูดเพื่อคิดสิ่งที่จะพูดต่อไปโดยไม่ต้องกลัว Dead air
เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดการใช้คำฟุ่มเฟือย คือการฝึกฝน และเตรียมตัวมาอย่างดีในเรื่องที่เราต้องพูด และต้องการสื่อสารค่ะ
.
#ลองฝึกดูนะคะ
.
สนใจปรับภาพลักษณ์และบุคลิกภาพแบบองค์รวม
ติดต่อเพื่อขอคำปรึกษากับครูกิ๊ฟได้ที่
http://goo.gl/mGHrrC
Line: @thereflectionist
Tel: 0815655549
▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️
ครูกิ๊ฟ คริมา จิวะชาติ
-นายกสมาคมที่ปรึกษาภาพลักษณ์นานาชาติแห่งประเทศไทย (AICI Thailand)
-"Personal Styling Coach Diploma" จาก London College of Style ประเทศอังกฤษ
สถาบันที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในLondon
-Advance Men Styling จาก First Image Training ประเทศมาเลเซีย
-"Image Training" จาก The New You สถาบันที่ได้รับการรับรองจาก AICI (Association of Image Consultants International) ประเทศไทย และ มาเลเซีย
-Business Manner and Etiquette จากการรับรองของสถาบัน IITTI (International Image & Etiquette Standards) ประเทศแคนนาดา
-Neuro-Linguistic Programing Coach certified จาก Living Wise Coaching ที่ได้รับการรับรองจาก American Board of NLP, USA.
-Time Line Therapy™️ certified จาก Living Wise Coaching ที่ได้รับการรับรองจาก Time Line Therapy Association, USA.
-Body Language Trainer : Rene Deceuninck
-"Fashion Design" Diploma จาก CIDI Chanapatana International Design Institute
-อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสายการบินไทย อายุงาน 15 ปี
-นักธุรกิจที่ทำงานตามความฝัน บนพื้นฐานของคำว่า "ความสุข"
13 พ.ย. 2566